Skip to content

วิธีสังเกตุอาการง่ายๆเมื่อกระต่ายและแก้สบี้เป็นหวัดวิธีสังเกตอาการง่ายๆ

Share to Social Media:

กระต่ายหรือแกสบี้จาม น้ำมูกไหล อันตรายหรือไม่? วิธีแยกอาการและดูแลที่ถูกต้อง

กระต่ายและแกสบี้เป็นสัตว์ที่ซ่อนอาการป่วยได้ดี อาการเล็กๆ เช่น จาม หรือมีน้ำมูก อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคทางเดินหายใจที่อันตราย หากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หรือการติดเชื้อรุนแรง

1. แยกระหว่าง “ระบายความร้อน” กับ “อาการหวัด”

  • หากมีน้ำมูกใสเล็กน้อยหลังออกกำลังกาย หรือในอากาศร้อน ถือเป็นการระบายความร้อนตามปกติ
  • หากน้ำมูกไหลตลอดเวลา จามบ่อย หายใจลำบาก หรือซึม อาจเป็นสัญญาณของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ

2. สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหวัด

  • ฝุ่นจากหญ้า อาหารเม็ด หรือมลภาวะในอากาศ
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น Pasteurella multocida หรือ Bordetella bronchiseptica
  • เชื้อราในระบบหายใจ
  • ท่อน้ำตาอุดตัน ฝีจากฟันยาว หรือเนื้องอกในโพรงจมูก

3. อาการที่ควรสังเกต

  • น้ำมูกใส ขาวขุ่น เหลือง หรือเขียว
  • จามบ่อย มีเสียงหายใจครืดคราด
  • หายใจทางปาก หรือหายใจลำบาก
  • ขนเปื้อนน้ำมูกบริเวณขาหน้า
  • ซึม ไม่กินอาหาร น้ำหนักลด

4. วิธีวินิจฉัยโดยสัตวแพทย์

  • ตรวจโพรงจมูก ฟัน และตา
  • X-ray หรือ ultrasound ทรวงอก
  • เพาะเชื้อจากน้ำมูกเพื่อเลือกยาปฏิชีวนะให้ตรงกับเชื้อ

5. แนวทางการรักษา

  • ลดฝุ่นจากหญ้า อาหาร หรือที่อยู่อาศัย
  • ใช้ยาปฏิชีวนะตามชนิดเชื้อ (ห้ามซื้อยาให้เอง)
  • พ่นยา หรือใช้ nebulizer กรณีจมูกอุดตันหรือน้ำมูกเหนียว
  • กรอฟันหากฟันยาวผิดปกติ
  • ผ่าตัดในกรณีมีเนื้องอกหรือฝี

6. การป้องกัน

  • ร่อนหญ้าก่อนให้กิน
  • ทำความสะอาดกรงสม่ำเสมอ
  • ใช้เครื่องฟอกอากาศในพื้นที่ที่มี PM 2.5 สูง
  • ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงปีละ 1–2 ครั้ง

สรุป

หากสัตว์เลี้ยงมีอาการน้ำมูกไหลบ่อย จาม หรือซึม อย่าชะล่าใจ ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที โรคระบบทางเดินหายใจอาจลุกลามได้รวดเร็ว และการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะเพิ่มโอกาสหายได้มากขึ้น