Skip to content

โรคที่มากับฝน

Share to Social Media:

ฤดูฝนมาแล้ว🌧️🌧️ มาพร้อมกับโรคที่เกี่ยวข้องกับความชื้นและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ที่สามารถทำให้เด็กๆที่บ้านป่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นสปีชีส์ไหน😱

.

  1. โรคหวัด ปอดบวม🤧

เกิดจากอากาศเย็นและชื้น ทำให้สัตว์มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ 🐰สัตว์มักจะแสดงอาการจาม มีน้ำมูก หายใจหอบ

🐦นกจะขนฟู ซุกปีก หายใจหางกระดก

🦎ในสัตว์เลื้อยคลาย มักพบยืดคอหายใจ น้ำลายเยอะ

การดูแล

💗ควรเพิ่มความอบอุ่นบริเวณที่เลี้ยง

💗หากบ้านไหนมีเครื่องดูดความชื้น แนะนำให้เปิดเพื่อลดความชื้นในอากาศ

💗สำหรับแกสบี้ควรเสริมวิตามินซีทุกวัน ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ไม่เป็นหวัดง่ายๆ

.

2. โรคผิวหนังติดเชื้อรา: เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา🍄‍🟫

🐭สัตว์ที่มักพบโรคนี้ ได้แก่ ชินชิลล่า เพราะน้องมาจากประเทศที่อากาศแห้งและหนาวเย็น เมื่อมาอยู่ประเทศไทย แถมยังเป็นฤดูฝนที่แสนจะอับชื้น ก็มักมีอาการขนร่วงเป็นวง ผิวหนังแดง บางตัวมีอาการคันร่วมด้วย

👴และนอกจากชินชิลล่าแล้ว ในสัตว์ที่ภูมิตก อายุเยอะ ก็สามารถเป็นเชื้อราได้เช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งที่อับชื้น ระบายอากาศไม่ดี เช่น บริเวณก้น หรือใต้คาง

🐢กลุ่มสัตว์เลื้อยคลานที่เลี้ยง Outdoor หากปล่อยให้ตากฝน หรือบริเวณที่เลี้ยงมีการขังของน้ำ ก็สามารถเกิดการติดทั้งเชื้อราและแบคทีเรียที่กระดองได้

.

3. โรคติดเชื้อจากพยาธิภายนอก เช่น ไร เห็บ หมัด ซึ่งมักเพิ่มจำนวนในฤดูฝน🪲

🪲พยาธิภายนอกจะเจริญเติบโตได้ดีในอากาศและสภาพแวดล้อมที่ชื้นแฉะ และเข้ามาจู่โจมสัตว์เลี้ยงของทุกๆบ้านในฤดูฝนได้

💧อย่าลืมพาเด็กๆไปหาคุณหมอเพื่อหยดยาสำหรับป้องกันปรสิตภายนอกเหล่านี้น๊าา

.

4. โรคท้องเสีย ท้องอืด: จากการกินอาหารที่ชื้น มีเชื้อราหรือเน่าเสีย🥗🚽

🍉นก กิ้งก่า ลิง ชูก้าไกเดอร์ หรือสัตว์ที่กินอาหารสด เช่น ผลไม้ แมลง มีความเสี่ยงที่จะท้องไส้แปรปรวนได้ เนื่องจากอาหารชื้นและบูดในฤดูฝน ซึ่งจะมีอาการถ่ายเหลว ปวดท้อง หรืออาเจียน🤢

🫧ดังนั้นต้องดูแลเรื่องความสะอาดสดใหม่ของอาหารในฤดูฝนแบบนี้อย่างเคร่งครัดเลยนะคะ

.

ด้วยความปรารถนาดีจาก สพ.ญ.กัณธิตา ปวีณสกล(หมอลูกเกด)