Skip to content

ไข่ค้าง… ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

Share to Social Media:

ภาวะไข่ค้าง (Egg Binding) ในสัตว์ปีกเพศเมีย
เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในนกที่ถึงวัยเจริญพันธุ์ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที


สาเหตุที่พบบ่อย

  1. นกตัวเล็ก ไข่ใบใหญ่
  • ไข่มีขนาดใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับขนาดตัวนก
  • ไข่ไม่สามารถเคลื่อนผ่านระบบสืบพันธุ์ได้ตามปกติ
  1. ไข่ผิดรูป
  • เช่น ไข่แฝด หรือไข่ที่มีรูปร่างยาวผิดปกติ
  • ทำให้ติดค้างในทางเดินไข่
  1. เปลือกไข่ผิดปกติ
  • เปลือกบางเกินไป: เสี่ยงแตกในตัว
  • เปลือกหนาเกินไป: เบ่งออกยาก
  1. ขาดแคลเซียมหรือสารอาหารที่จำเป็น
  • โดยเฉพาะแคลเซียมและวิตามิน D3
  • ส่งผลต่อการบีบตัวของกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของเปลือกไข่
  1. ไม่มีรังวางไข่
  • นกอาจเกร็งและไม่สามารถวางไข่ได้
  • เกิดจากความรู้สึกไม่ปลอดภัยในสิ่งแวดล้อม
  1. ปัจจัยอื่น ๆ
  • ความเครียด
  • การติดเชื้อ
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง

การวินิจฉัยภาวะไข่ค้าง

  • ตรวจร่างกายโดยสัตวแพทย์
  • คลำตำแหน่งไข่
  • ตรวจด้วย X-ray หรือ Ultrasound

แนวทางการรักษา

  1. ให้ยา
  • ยาแก้ปวด
  • ยากระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก
  1. การช่วยคลอดไข่
  • สัตวแพทย์ช่วยดันไข่ออกอย่างระมัดระวัง
  • หากไข่ผิดรูป อาจเจาะไข่และนำเปลือกออก
  1. การผ่าตัด (ในกรณีรุนแรง)
  • ใช้เมื่อล้มเหลวในการรักษาด้วยวิธีอื่น
  • เช่น กรณีไข่แตกภายในหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน

อันตรายจากการปล่อยไว้

  • อ่อนแรงจากการเบ่งไข่นานเกินไป
  • ติดเชื้อหากไข่แตกภายใน
  • ภาวะขาดน้ำ พลังงานต่ำ จนอาจเสียชีวิต

การป้องกัน

  • เสริมแคลเซียมและวิตามิน D3 อย่างสม่ำเสมอ
  • เตรียมรังวางไข่ให้เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงความเครียด
  • ตรวจสุขภาพนกอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วงฤดูวางไข่

สรุป
ภาวะไข่ค้างเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ทันที หากนกมีอาการเบ่งไข่ติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง ควรรีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์

“ดูแลเรื่องโภชนาการและสิ่งแวดล้อมให้ดี ป้องกันไข่ค้างและเสริมสุขภาพให้นกของคุณได้ยืนยาว”


#ภาวะไข่ค้างในนก #โรคในสัตว์ปีก #ExoticAnimalCare #AnimalSpace