Skip to content

ทำไมต้องพางูไปหาหมอและถ่ายพยาธิ

Share to Social Media:

📌 งูสามารถติดพยาธิได้จากอาหารและสิ่งแวดล้อม!
งูที่กินอาหารสด เช่น หนูแช่แข็ง, หนูเป็น, ลูกเจี๊ยบสด หรืออาหารอื่นๆ มีโอกาสสูงที่จะได้รับพยาธิจากการปนเปื้อน รวมถึงพยาธิบางชนิดสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสอุจจาระของงูที่ติดเชื้อ

✅ แนะนำให้พางูไปตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิทุก 6 เดือน (ปีละ 2 ครั้ง) เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว โดยเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนเป็นต้นไป และควร เก็บตัวอย่างอุจจาระไปตรวจใต้กล้องจุลทรรศน์ เพื่อเช็กว่า มีพยาธิ ไข่พยาธิ โปรโตซัว หรือเชื้อราที่ก่อโรคหรือไม่


🐍 ตัวอย่างเคส: งูคอร์น (Corn Snake) ติดพยาธิ

งูตัวนี้ถูกพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิตามปกติ แต่เมื่อตรวจอุจจาระใต้กล้อง กลับพบพยาธิว่ายอยู่ชัดเจน หมอจึงรีบให้ยาถ่ายพยาธิทันที พร้อมแนะนำให้เจ้าของ
ทำความสะอาดกรงและพื้นที่เลี้ยง
ตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหาร เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารปลอดภัย ไม่ปนเปื้อน


🐍 โรคอื่นๆ ที่พบบ่อยในงู

1. โรคช่องปากอักเสบ (Mouth Rot / Infectious Stomatitis)

📌 อาการ:

  • มีน้ำลายเยอะผิดปกติ
  • ช่องปากแดงอักเสบ
  • พบเมือกข้น หรือจ้ำเลือด
  • งูไม่กินอาหาร

📌 สาเหตุ:

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย (มักเกิดจากความเครียดหรือระบบภูมิคุ้มกันต่ำ)
  • สิ่งแวดล้อมที่ไม่สะอาด

📌 การรักษา:
✅ ล้างช่องปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
✅ ใช้ยาฆ่าเชื้อแบบฉีด
✅ ให้วิตามินเสริม โดยเฉพาะ วิตามิน A และ C เพื่อช่วยฟื้นฟูเซลล์เยื่อบุช่องปาก


2. โรคลอกคราบไม่สมบูรณ์ (Dysecdysis)

📌 อาการ:

  • คราบติดค้าง โดยเฉพาะที่ เปลือกตา (Spectacle Retention)
  • งูดูมองไม่ชัด
  • มีอาการระคายเคือง

📌 สาเหตุ:

  • ความชื้นไม่เหมาะสม
  • งูขาดที่สำหรับถูตัวช่วยลอกคราบ

📌 การรักษา:
✅ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดคราบที่ค้าง
✅ เพิ่มความชื้นในที่เลี้ยง
✅ มีหินหรือวัสดุให้ถูลำตัวขณะลอกคราบ


3. การติดเชื้อโปรโตซัวและไวรัส

เชื้อโปรโตซัว Cryptosporidium

📌 อาการ:

  • ขย้อนอาหารบ่อย
  • น้ำหนักลด
  • อ่อนแรง
  • คลำพบก้อนแข็งบริเวณกลางลำตัว

📌 การรักษา:
✅ ใช้ยาปฏิชีวนะ แต่บางครั้งอาจไม่ตอบสนอง


โรค Inclusion Body Disease (IBD)

📌 ไวรัสที่พบบ่อยในงูโบอาและไพธอน
📌 อาการ:

  • งูมีปัญหาทางระบบประสาท
  • หงายแล้วพลิกตัวกลับไม่ได้
  • เลื้อยผิดปกติ

📌 การรักษา:
🚨 ยังไม่มีวิธีรักษา งูที่ติดเชื้อส่วนใหญ่จะเสียชีวิตภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์


🐍 สรุป ทำไมต้องพางูไปหาหมอและถ่ายพยาธิ?

งูมีโอกาสติดพยาธิได้จากอาหารและสิ่งแวดล้อม
ตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิทุก 6 เดือน ป้องกันการติดเชื้อร้ายแรง
ตรวจอุจจาระเพื่อหาเชื้อโรคและพยาธิที่อาจเป็นอันตราย
ป้องกันโรคอื่นๆ เช่น ช่องปากอักเสบ, ลอกคราบไม่สมบูรณ์ และการติดเชื้อโปรโตซัว

📌 หากงูของคุณมีอาการผิดปกติ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที! 🏥

#สัตว์เลื้อยคลาน #งูป่วย #ถ่ายพยาธิงู #ReptileCare #รักษางู