กระต่ายและหนูแกสบี้ (Guinea Pig) เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่หลายคนหลงรัก แต่ รู้หรือไม่ว่าการเลี้ยงทั้งสองตัวอยู่ในกรงเดียวกันอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี?
💡 หลายคนอาจคิดว่า กระต่ายกับแกสบี้อยู่รวมกันได้ เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กเหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว มีหลายเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองชนิดไม่ควรอยู่ร่วมกัน วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ พร้อมคำแนะนำจากสัตวแพทย์แห่งโรงพยาบาลสัตว์ Animal Space!
❌ 3 เหตุผลที่ไม่ควรเลี้ยงกระต่ายรวมกับหนูแกสบี้
1️⃣ ความต้องการทางโภชนาการที่แตกต่างกัน
🐹 หนูแกสบี้ต้องการวิตามิน C สูง
- แกสบี้ ไม่สามารถสร้างวิตามิน C ได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเสริม เช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C สูง
- กระต่ายไม่ต้องการวิตามิน C เสริมแบบแกสบี้ หากได้รับมากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร
🐰 กระต่ายมีระบบย่อยอาหารที่แตกต่างกัน
- กระต่ายต้องกิน หญ้าแห้งเป็นหลัก (80% ของอาหารทั้งหมด)
- แกสบี้สามารถกินอาหารได้หลากหลายกว่า เช่น ผักสด ผลไม้ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับระบบย่อยอาหารของกระต่าย
💡 การเลี้ยงรวมกันอาจทำให้กระต่ายหรือแกสบี้ได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุล และเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินอาหาร
2️⃣ ขนาดตัวและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน
🐹 หนูแกสบี้ตัวเล็กและบอบบางกว่ากระต่าย
- แกสบี้มีโครงสร้างกระดูกที่เล็กและเปราะบางกว่ากระต่าย
- กระต่ายมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง หากกระโดดหรือเตะโดยไม่ตั้งใจ อาจทำให้แกสบี้บาดเจ็บได้
🐰 กระต่ายมีพฤติกรรมการเล่นที่รุนแรงกว่า
- กระต่ายชอบกระโดดและใช้ขาหลังเตะสิ่งรอบตัว
- หนูแกสบี้มีนิสัยขี้ตกใจ หากเจอพฤติกรรมของกระต่ายอาจทำให้เกิดความเครียดเรื้อรัง และส่งผลต่อสุขภาพ
💡 แม้ว่ากระต่ายอาจไม่ได้ตั้งใจทำร้ายแกสบี้ แต่พฤติกรรมทางธรรมชาติของทั้งสองชนิดต่างกันมาก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
3️⃣ กระต่ายสามารถเป็นพาหะของโรคที่อันตรายต่อแกสบี้
🐰 กระต่ายสามารถเป็นพาหะของแบคทีเรีย Bordetella bronchiseptica
- เชื้อนี้เป็น แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในทางเดินหายใจของกระต่ายได้โดยไม่ทำให้เกิดโรค
- แต่ หากแพร่ไปยังหนูแกสบี้ อาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่แกสบี้มีความเครียด หรือภูมิคุ้มกันต่ำ
📌 อาการของแกสบี้ที่ติดเชื้อ Bordetella bronchiseptica:
✔ จาม มีน้ำมูก
✔ หายใจติดขัด
✔ เบื่ออาหาร
✔ ซึม อ่อนแรง
💡 แม้ว่ากระต่ายจะดูแข็งแรง แต่การอยู่ร่วมกับแกสบี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
💡 วิธีทำให้กระต่ายและแกสบี้เป็นเพื่อนกันอย่างปลอดภัย
แม้ว่ากระต่ายกับหนูแกสบี้จะไม่ควรอยู่ในกรงเดียวกัน แต่ก็สามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้ในบางกรณี โดยต้องปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้
✅ 1. แยกกรงเลี้ยง แต่อยู่ใกล้กันได้
- ให้ทั้งสองตัวมีที่อยู่แยกจากกัน เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ
- สามารถตั้งกรงให้มองเห็นกัน เพื่อให้รู้สึกไม่โดดเดี่ยว
✅ 2. มีพื้นที่สำหรับแกสบี้หลบภัย
- หากปล่อยให้เล่นด้วยกัน ควรมี “hind box” หรือที่หลบภัยสำหรับแกสบี้
- กระต่ายอาจมีพฤติกรรมข่มแกสบี้ การมีที่ซ่อนจะช่วยให้แกสบี้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
✅ 3. ทำหมันกระต่ายก่อนเลี้ยงร่วมกัน
- กระต่ายที่ไม่ได้ทำหมันอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือพยายามขึ้นขี่แกสบี้
- การทำหมันช่วยลดฮอร์โมนและพฤติกรรมครอบครองอาณาเขต
✅ 4. แยกการให้อาหาร
- อาหารของกระต่ายและแกสบี้มีความแตกต่างกัน จึงควรให้อาหารแยกจากกัน
- ใช้ชามอาหารและที่ให้น้ำแยกกัน เพื่อลดความเสี่ยงของการแย่งอาหาร
✅ 5. สังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด
- หากแกสบี้เริ่มซึม ไม่กินอาหาร หรือมีอาการหายใจลำบาก ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
- ตรวจสุขภาพกระต่ายและแกสบี้เป็นประจำ เพื่อตรวจหาสัญญาณของโรคที่อาจแพร่กระจายกัน
📢 สรุป: กระต่ายกับแกสบี้ไม่ควรอยู่ในกรงเดียวกัน!
❌ เลี้ยงรวมกันอาจทำให้เกิดปัญหาด้านโภชนาการ
❌ กระต่ายอาจทำร้ายแกสบี้โดยไม่ตั้งใจ เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่กว่า
❌ กระต่ายสามารถเป็นพาหะนำโรคทางเดินหายใจที่เป็นอันตรายต่อแกสบี้
✅ ทางเลือกที่ดีที่สุด: แยกเลี้ยงแต่ให้เจอกันในเวลาที่ควบคุมได้ และมีพื้นที่หลบภัยให้แกสบี้
📢 แชร์บทความนี้ให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงคนอื่นๆ ได้รู้ เพื่อให้กระต่ายและแกสบี้มีสุขภาพที่ดี และอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัย! 🐰🐹