นกสวยงาม
เป็นมือใหม่หัดเลี้ยงนกสวยงามใช่ไหม?
สามารถศึกษาจากบทความของเราเพื่อเตรียมตัวสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของเราได้เลย
เรื่องเล่าจากคุณหมอรักษานกสวยงาม

หนึ่งในกลุ่มอาการที่เป็นอันตรายถึงชีวิตในนกก็คือ “ภาวะอุดตันของทางเดินหายใจ
” วันนี้เราจะมาคุยและยกตัวอย่างเคสให้ทุกคนได้ดูกันนะครับ ว่าเรามีวิธีการวินิจฉัย การจัดการและการรักษายังไงบ้าง”
__________________
นกแก้ว Blue-and-Gold macaw ตัวนี้เข้ามาที่โรงพยาบาลด้วยปัญหาหอบหายใจแบบฉับพลัน หลังจากการตรวจร่างกายพบกลุ่มอาการที่สําคัญ คือ หายใจเข้าลําบาก (Inspiratory dyspnea) และ อ้าปากหายใจ (Open mouth breathing) บางครั้งจะมีเสียงหายใจที่เหมือนลมผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบลง โดยทั่วไปหลักในการคิดวินิจฉัยแยกโรคเมื่อนกมีภาวะหายใจลําบาก (Dyspnea) เราจะแยกเป็น
1. หายใจลําบากจากโรคระบบทางเดินหายใจ (Respiratory dyspnea)
2. หายใจลำบากจากโรคที่ไม่ใช่ระบบทางเดินหายใจ (Non-respiratory dyspnea) อันนี้เป็นโรคอะไรก็ตามที่ทําให้เกิดการกดเบียดการขยายตัวของถุงลม เช่น ตับโต (Hepatomegaly) ท้องมาน (Ascites) ไข่ค้างและไข่ติด (Egg binding and Dystocia) เป็นต้น
จากประวัติของนกตัวนี้ค่อนข้างโน้มนําไปในทางโรคระบบทางเดินหายใจและน่าจะมีภาวะอุดตันร่วมด้วย ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือหายใจไม่เข้าและไม่ออกนั่นแหละครับ ซึ่งภาวะนี้จัดเป็นภาวะฉุกเฉิน (Emergency condition) ที่ต้องได้รับการจัดการ วินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว ไม่งั้นอาการจะแย่ลงและเสียชีวิตในที่สุด
แต่ทุกคนคงทราบดีครับว่าการจับบังคับเพื่อวินิจฉัยหรือรักษาในนกที่มีภาวะอ้าปากหายใจมักมีความเสี่ยงที่จะทําให้นกช็อคและเสียชีวิตสูงมากเช่นกัน เราได้ตัดสินใจให้ยาซึมชนิดที่กดทางเดินหายใจนกน้อยและเฝ้าติดตามสัญญาณชีพตลอดเวลาเพื่อทำ CT-scan หารอยโรคและตําแหน่งที่อุดตัน โดยเราพบว่าบริเวณทางแยกของหลอดลมหรือขั้วปอดมีสิ่งผิดปกติเป็นก้อนอุดตันท่อลมอยู่ทางด้านขวาและซ้าย โดยด้านขวาอุดตันสมบูรณ์และด้านซ้ายเหลือช่องอากาศให้ผ่านได้เล็กน้อย สรุปว่านกตัวนี้มีภาวะทางเดินหายใจอุดตันและคาดว่าก้อนน่าจะเป็นเชื้อรา
_________________
เราได้แจ้งเจ้าของสัตว์และได้ให้ทางเลือกกับของว่าจะไปต่อสุดไหม ? เจ้าของบอกเต็มที่ เราเลยจัดเตรียม Operation team ในการช่วยนกตัวนี้ทันที เมื่อนกมีภาวะอุดตันทางเดินหายใจโดยเฉพาะบริเวณกล่องเสียงและหลอดลม เราจะมีวิธีในการช่วยให้นกหายใจได้อีกทางก็คือ “การเปิดช่องหายใจผ่านถุงลม” (Air sac intubation)
โดยเราจะสอดท่อหายใจเข้าไปในถุงลมบริเวณด้านข้างตัวนกเหมือนเป็นการ Bypass ให้นก
หายใจผ่านทางท่อนี้แทนหลอดลมที่อุดตัน (ลองดูรูปที่แนบไปให้ควบคู่กันไปนะครับ) วิธีนี้ไม่ใช่วิธีการรักษาครับ แต่เป็นวิธีที่ทําให้นกสามารถหายใจได้และสัตวแพทย์สามารถทําการวินิจฉัยและรักษาได้โดยที่นกไม่ช็อคไปซะก่อน โดยปกติท่อนี้จะถูกใส่และคาไว้ประมาณ 3-5 วัน แล้วแต่อาการของนกหลังได้รับการรักษาครับ
เมื่อเจ้าของไปสุด เราก็ไปสุดครับ นกตัวนี้ได้รับการวินิจฉัยผ่านการส่องกล้องเข้าไปในช่องลําตัวเพื่อเข้าไปดูว่าไอก้อนที่เห็นใน CT-scan มันเป็นก้อนอะไร และเราก็พบคําตอบว่ามันน่าจะเป็นเชื้อรานั่นแหละครับ
เมื่อเราช่วยเปิดทางเดินหายใจใหม่ให้แล้ว วินิจฉัยสุดแล้ว เรามั่นใจและพิจารณาให้ยารักษาเชื้อราทั้งแบบกินและแบบพ่น (Amphotericin B: Nebulization) โดยหลังจากเปิดทางเดินหายใจใหม่และให้ยาไป 2-3 วัน นกตัวนี้ก็ไม่มีอาการของภาวะหายใจลําบากและอ้าปากหายใจอีกเลย เราจึงพิจารณาถอดท่อข้างตัวออกและพบว่านกสามารถกลับมาหายใจผ่านหลอดลมได้อีกครั้งแล้ว
หลังจากแอดมิดที่โรงพยาบาลต่ออีกประมาณ 3-4 วัน สัตวแพทย์ก็พิจารณาให้กลับบ้าน ป้อนยาฆ่าเชื้อยาและพ่นยาฆ่าเชื้อราที่บ้านต่ออีกประมาณ 2-3 อาทิตย์ติดต่อกัน แล้วค่อยนัดมาติดตามอาการและ CT scan เปรียบเทียบรอยโรคเพื่อพิจารณาหยุดยาต่อไปครับ