การดูแลกระต่ายให้ปลอดภัยจากสารพิษเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของควรให้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะ การเลือกใช้ยา เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่ไวต่อสารเคมีบางชนิดมาก หากใช้ผิด อาจทำให้เกิดอาการชักและเสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น

ยาต้องห้ามสำหรับกระต่าย

หนึ่งในยาที่อันตรายและ ห้ามใช้กับกระต่ายโดยเด็ดขาด คือ Fipronil ซึ่งแม้จะมีหลายยี่ห้อในท้องตลาด แต่ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อกระต่ายอย่างรุนแรง รวมถึง ยาขวดแก้วสีชา ที่เป็นยาเถื่อน ไม่มีการรับรองสารออกฤทธิ์ และมักขายในราคาถูกเพียง 50-100 บาท ซึ่งเป็นอันตรายต่อกระต่ายอย่างมาก

💡 ผลกระทบจากยาต้องห้าม
เมื่อกระต่ายได้รับยาเหล่านี้ อาจแสดงอาการดังต่อไปนี้:

• ซึม เบื่ออาหาร
• ชักภายใน 1-3 วันหลังได้รับยา
• อาการชักรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และอาจเสียชีวิตอย่างทรมาน

วิธีช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อกระต่ายได้รับพิษ

หากพบว่ากระต่ายได้รับยาอันตรายโดยไม่ตั้งใจ ให้รีบดำเนินการดังนี้:

1. ลดการดูดซึมของยา

หากหยอดยาไปแล้ว ควรรีบล้างบริเวณที่สัมผัสให้สะอาดที่สุดโดย:

• ใช้แชมพูสำหรับลูกสุนัขหรือแชมพูเด็กเพื่อล้างสารเคมีออก
• หลังล้างแล้ว ให้เป่าขนกระต่ายให้แห้งทันที เพื่อป้องกันภาวะตัวเย็นเกินไป

2. กระตุ้นการขับยาออกจากร่างกาย

วิธีนี้ควรได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ โดยอาจใช้:

• การให้สารน้ำ เช่น น้ำเกลือ ผ่านทางเส้นเลือดหรือใต้ผิวหนัง
• การป้อนน้ำสะอาดเพื่อช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย

3. ควบคุมอาการชักและรักษาตามอาการ

• หากกระต่ายเริ่มชัก ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
• สัตวแพทย์อาจให้ยาแก้ชัก ออกซิเจน และสารอาหารผ่านสายยางหากกระต่ายไม่สามารถกินได้เอง
• หากกระต่ายยังมีแรงกินอาหาร อาจป้อน Critical Care ซึ่งเป็นอาหารสำหรับกระต่ายป่วย

โอกาสรอดของกระต่ายที่ได้รับพิษ

หากได้รับยาในปริมาณน้อย และได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว กระต่ายอาจมีโอกาสรอดสูงขึ้น แต่หากได้รับยาในปริมาณมาก โอกาสรอดอาจลดลง ดังนั้น การสังเกตอาการและพาสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด เป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยชีวิตกระต่าย