Skip to content

เชื้อราในชินชิลล่า: สาเหตุและวิธีการรักษา 🦠

Share to Social Media:

💡 ทำไมชินชิลล่าถึงติดเชื้อราได้ง่าย?
ชินชิลล่ามีถิ่นกำเนิดจากเทือกเขาใน ทวีปอเมริกาใต้ เช่น อาร์เจนตินา เปรู และชิลี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มี อากาศหนาวและแห้ง 🏔️❄️ เมื่อนำมาเลี้ยงในประเทศไทยซึ่งมีอากาศ ร้อนและชื้น 🏜️☀️ ทำให้ ผิวหนังของชินชิลล่าอ่อนแอและไวต่อการติดเชื้อรา ได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยเสี่ยง เช่น
สภาพแวดล้อมอับชื้น
ไม่ได้อาบทรายเป็นประจำ
มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ


🦴 แล้วชินชิลล่าจะติดพวกไรขี้เรื้อนหรือไรขนได้ไหม?

โอกาสติดไรภายนอกต่ำมาก!
เนื่องจาก ขนของชินชิลล่าแน่นมาก ใน 1 รูขุมขน มีขนอยู่ถึง 50-60 เส้น 🦊 ทำให้ไรไม่มีพื้นที่อาศัยอยู่


🔎 อาการของโรคเชื้อราในชินชิลล่า

📌 ขนร่วงเป็นหย่อมๆ โดยมักพบที่
จมูก
หู
ปาก
มือ
บริเวณที่อับชื้น

📌 ลักษณะผิวหนังผิดปกติ
ผิวหนังแดง
คันหรือไม่คัน
ขนบริเวณรอบๆ อ่อนแอและหลุดง่าย
อาจพบสะเก็ดสีขาวที่บริเวณขนร่วง


🩺 การวินิจฉัยโรคเชื้อราในชินชิลล่า

🔬 1. การส่องไฟ Wood’s Lamp
✅ ถ้าพบเชื้อราบางชนิด จะสะท้อน แสงสีเขียว
❌ แต่! ไม่สามารถตรวจพบเชื้อราได้ทุกชนิด

🧪 2. การตรวจขนและผิวหนังใต้กล้องจุลทรรศน์
✅ ตรวจดู ลักษณะเส้นขน การเปราะแตก หรือการติดสปอร์ของเชื้อรา

🌱 3. การเพาะเชื้อ
✅ เป็นวิธีที่ แม่นยำที่สุด แต่ใช้เวลานาน ประมาณ 1 สัปดาห์


💊 วิธีการรักษาโรคเชื้อราในชินชิลล่า

การฟอกยา + ล้างออก (เพราะชินชิลล่าจะเลียตัวเองบ่อย การทายาทิ้งไว้เสี่ยงทำให้ กินยาเข้าไปและท้องอืดได้)
การกินยาฆ่าเชื้อรา (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค)
ระยะเวลาการรักษา ส่วนใหญ่มักใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ขึ้นไป


🏠 วิธีป้องกันไม่ให้ชินชิลล่าติดเชื้อรา

✔️ ให้อาบทรายเป็นประจำ 🏜️ เพื่อดูดซับความชื้นออกจากขน
✔️ เลี้ยงในที่อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น 🌬️
✔️ รักษาความสะอาดของกรงและอุปกรณ์ 🧼
✔️ หากพบขนร่วงผิดปกติ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ 🩺

💡 เชื้อราในชินชิลล่าเป็นปัญหาที่พบบ่อยในประเทศไทย แต่สามารถป้องกันและรักษาได้หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม! 🦊💙

#รักษาสัตว์เลี้ยงพิเศษ #เชื้อราในชินชิลล่า #AnimalSpace