Skip to content

โรคหัวเอียงในกระต่าย (Encephalitozoonosis) อันตรายกว่าที่คิด!

Share to Social Media:

📌 กระต่ายของคุณมีอาการหัวเอียง คอบิด เดินวน หรือกลิ้งตัวผิดปกติหรือเปล่า?

❗ อาการเหล่านี้อาจเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว Encephalitozoon cuniculi (E. cuniculi) ซึ่งเป็นสาเหตุของ “โรคหัวเอียงในกระต่าย”

โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้แบบฉับพลัน และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ดวงตา และไตของกระต่ายได้ 🩺 วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับโรคนี้ให้มากขึ้น พร้อมแนวทางป้องกันและการรักษาที่ถูกต้อง!


🔬 โรคหัวเอียงในกระต่ายคืออะไร?

โรคหัวเอียงในกระต่าย (Encephalitozoonosis) เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว Encephalitozoon cuniculi (E. cuniculi) ซึ่งแฝงตัวอยู่ในร่างกายของกระต่าย

📊 จากการศึกษาทั้งในไทยและต่างประเทศพบว่า 50-70% ของกระต่ายมีเชื้อนี้แฝงอยู่ โดยไม่แสดงอาการใดๆ จนกระทั่งระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง หรือเมื่อกระต่ายมีอายุมากขึ้น


🔍 สาเหตุและการติดต่อของโรค

📌 เชื้อนี้สามารถแพร่กระจายได้หลายทาง ได้แก่

จากแม่สู่ลูก – ลูกกระต่ายสามารถรับเชื้อจากแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
การกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนปัสสาวะของกระต่ายที่ติดเชื้อ
การหายใจเอาสปอร์ของเชื้อเข้าไป

กระต่ายที่เลี้ยงรวมกัน หรือใช้ของเล่นและอุปกรณ์ร่วมกันในพื้นที่ปิด มีโอกาสรับเชื้อได้ง่ายขึ้น!


🩺 อาการของโรคหัวเอียงในกระต่าย

🧠 1. อาการทางระบบประสาท (พบได้บ่อยที่สุด)

  • หัวเอียง คอบิด (Torticollis)
  • เดินวน กลิ้งตัว ทรงตัวไม่ได้
  • ตากระตุก (Nystagmus)
  • อาการวิงเวียน ซึม ไม่ร่าเริง

👀 2. อาการทางดวงตา

  • มีต้อขาว ต้อกระจก
  • ตาแดง อักเสบ

🩸 3. อาการทางไต

  • ปัสสาวะมากผิดปกติ
  • ภาวะไตวายเรื้อรัง (ในกรณีรุนแรง)

📢 หากกระต่ายของคุณมีอาการเหล่านี้ อย่ารอช้า! รีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที


🧪 วิธีการวินิจฉัยโรคหัวเอียงในกระต่าย

สัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายร่วมกับการทดสอบเพิ่มเติม ได้แก่

ตรวจเลือด – เพื่อหาแอนติบอดีของ E. cuniculi
ตรวจปัสสาวะ – เพื่อตรวจหาสปอร์ของเชื้อ
MRI หรือ CT Scan – เพื่อดูการอักเสบของสมองในกรณีรุนแรง

📢 หากพบเชื้อนี้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที!


💊 วิธีรักษาโรคหัวเอียงในกระต่าย

📌 การรักษาจะใช้ยาฆ่าเชื้อโปรโตซัว (เช่น Fenbendazole) เป็นเวลาอย่างน้อย 28 วัน พร้อมกับยาอื่นๆ ตามอาการ

📝 1. ยาฆ่าเชื้อโปรโตซัว (Antiprotozoal drugs)
Fenbendazole หรือ Albendazole – ใช้ติดต่อกัน 28 วัน เพื่อลดจำนวนเชื้อ

💊 2. ยาบรรเทาอาการทางประสาท
ยาแก้วิงเวียน เช่น Meclizine
ยาแก้อักเสบในระบบประสาท เช่น Meloxicam

🚑 3. การรักษาทางเลือกอื่นๆ (ช่วยลดอาการและฟื้นฟูเร็วขึ้น)
การฝังเข็ม – ช่วยกระตุ้นระบบประสาท
การบำบัดด้วยออกซิเจนเข้มข้น (Hyperbaric Oxygen Therapy)
การทำกายภาพบำบัด เพื่อช่วยให้กระต่ายกลับมาเดินได้ปกติ

📢 กระต่ายที่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว มีโอกาสหายและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้สูง


✅ วิธีป้องกันโรคหัวเอียงในกระต่าย

🛑 1. ควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ
✔ หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะอาหารและน้ำร่วมกัน
✔ ทำความสะอาดกรง และเปลี่ยนที่รองพื้นเป็นประจำ
✔ หลีกเลี่ยงการนำกระต่ายใหม่เข้ามาโดยไม่ตรวจสุขภาพ

🥦 2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กระต่าย
✔ ให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
✔ หมั่นให้กระต่ายออกกำลังกาย
✔ หลีกเลี่ยงความเครียด เพราะภูมิคุ้มกันต่ำลงจะกระตุ้นให้โรคแสดงอาการ

🩺 3. ตรวจสุขภาพกระต่ายเป็นประจำ
✔ ควรพากระต่ายไปตรวจสุขภาพปีละ 1-2 ครั้ง
✔ ตรวจเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อ E. cuniculi ในกรณีที่กระต่ายเริ่มมีอาการ

📢 การตรวจพบเชื้อตั้งแต่ระยะแรก สามารถช่วยให้กระต่ายมีโอกาสรักษาหายได้สูงขึ้น!


📢 สรุป: โรคหัวเอียงในกระต่าย อันตรายกว่าที่คิด!

โรคหัวเอียงในกระต่าย เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัว Encephalitozoon cuniculi
อาการที่พบบ่อย: หัวเอียง คอบิด เดินวน ทรงตัวไม่ได้ ตากระตุก
กระต่ายบางตัวอาจมีปัญหาที่ไตและดวงตาร่วมด้วย
การรักษาต้องใช้ยาฆ่าโปรโตซัวต่อเนื่อง 28 วัน พร้อมยาบรรเทาอาการ
การป้องกันที่ดีที่สุด คือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และควบคุมความสะอาด

📢 หากกระต่ายของคุณเริ่มมีอาการผิดปกติ รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและมีโอกาสหายกลับมาเป็นปกติได้!

📣 แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ที่เลี้ยงกระต่าย เพื่อป้องกันและช่วยเหลือเจ้าตัวน้อยกันนะ! 🐰💚