เคสตัวอย่าง: ขนร่วงแบบสมมาตรในหนูแกสบี้ และภาวะซีสต์รังไข่
หนูแกสบี้ตัวหนึ่งเข้ารับการรักษาด้วยอาการขาหัก และได้รับการใส่เฝือกเรียบร้อยดี แต่ระหว่างการตรวจร่างกาย สัตวแพทย์สังเกตพบว่ามีขนร่วงบริเวณด้านท้ายของลำตัวทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นลักษณะของ “ขนร่วงแบบสมมาตรโดยไม่มีการอักเสบของผิวหนัง” (Non-pruritic Bilateral Symmetrical Alopecia)
การวินิจฉัย
ขนร่วงลักษณะนี้มักเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของฮอร์โมน จึงมีการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound) เพื่อประเมินรังไข่และต่อมหมวกไต พบว่ามีถุงน้ำที่รังไข่ (Ovarian Cysts) ทั้งสองข้าง
ประเภทของซีสต์รังไข่ในหนูแกสบี้
1. Serous Cysts (Cystic Rete Ovarii) – ซีสต์ไม่ผลิตฮอร์โมน
- มักไม่แสดงอาการภายนอกจนกว่าซีสต์จะมีขนาดใหญ่
- อาจกดเบียดอวัยวะในช่องท้อง ทำให้ท้องอืด เบื่ออาหาร
- ขนาดซีสต์อาจใหญ่ถึง 0.5 – 7.0 ซม.
การรักษา
- ผ่าตัดรังไข่และมดลูกออก (Ovariohysterectomy, OVH) – ได้ผลดีที่สุด
- ดูดของเหลวออกด้วยอัลตราซาวด์ – ช่วยบรรเทาชั่วคราว ซีสต์อาจโตซ้ำ
2. Follicular Cysts – ซีสต์ที่ผลิตฮอร์โมน
อาการที่พบ:
- ขนร่วงแบบสมมาตร
- ช่องท้องขยาย
- เต้านมหรือหัวนมขยายใหญ่
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบร่วม:
- เนื้องอกมดลูก
- เนื้องอกรังไข่
- มดลูกอักเสบ
- โลหิตจางจากภาวะกดไขกระดูก
การรักษา
- ผ่าตัดรังไข่และมดลูกออก (OVH)
- ฉีดฮอร์โมน:
- GnRH agonist: 25 ไมโครกรัม/ตัว ห่างกัน 2 สัปดาห์
- ไม่แนะนำ hCG เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดการสร้างแอนติบอดีต้าน
คำแนะนำในการป้องกัน
- หนูแกสบี้เพศเมียที่อายุ 3 ปีขึ้นไป ควรตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องเป็นประจำ
- ตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวังความผิดปกติของฮอร์โมน
- หากพบขนร่วงแบบสมมาตร หรือช่องท้องขยายผิดปกติ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
สรุป:
โรคซีสต์รังไข่ในหนูแกสบี้พบได้บ่อยในเพศเมีย และอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โอกาสในการฟื้นตัวและหายขาดจะเพิ่มสูงขึ้น