เจ้าของสามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อช่วยให้น้องได้รับการดูแลทันเวลา
กระต่ายเป็นสัตว์ที่ไม่ส่งเสียงร้องเมื่อเจ็บปวด และมัก “เก็บอาการ” เอาไว้ ทำให้เจ้าของหลายคนไม่รู้ว่าน้องกำลังป่วย หากสังเกตไม่ทัน อาจเกิดภาวะรุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ทำไมกระต่ายถึงซ่อนอาการปวด?
ในธรรมชาติ กระต่ายเป็นสัตว์ที่ถูกล่า การแสดงอาการเจ็บปวดออกมาจะทำให้ดูอ่อนแอและตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย ดังนั้น พวกมันจึงมักซ่อนความเจ็บปวดจนกว่าจะทนไม่ไหว
กระต่ายที่มีอาการปวดรุนแรง อาจเข้าสู่ภาวะ “ช็อก” ได้ เจ้าของจึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ
6 วิธีสังเกตอาการปวดในกระต่าย
1. สีหน้าเปลี่ยนไป (Rabbit Grimace Scale)
- หูตกไปด้านข้าง หรือแนบกับหัว
- ตาหรี่ หรือดูเหมือนหลับตาตลอดเวลา
- จมูกขยับช้ากว่าปกติ
- หน้าย่น ริมฝีปากตึง หรือเบะเล็กน้อย
หากพบสีหน้าเหล่านี้ ควรสังเกตพฤติกรรมอื่นร่วมด้วย
2. คู้ตัวหรือหมอบนิ่งผิดปกติ
- ปกติ: นอนยืดขาหลัง หรือขดตัวสบายๆ
- ผิดปกติ: นั่งคู้ตัว กดท้องกับพื้น ไม่เคลื่อนไหว
อาจเป็นสัญญาณว่ากระต่ายพยายามลดความเจ็บปวด
3. ไม่กินอาหาร หรือกินน้อยลง
- ปกติ: กระต่ายจะกินหญ้าตลอดทั้งวัน
- ผิดปกติ:
- ไม่กินหญ้า อาหารเม็ด
- เลือกกินแต่อาหารนิ่ม
- เคี้ยวอาหารช้าหรือใช้เวลานานผิดปกติ
สาเหตุอาจมาจากปวดฟัน ปวดท้อง หรือภาวะลำไส้หยุดเคลื่อน (GI Stasis) ควรรีบพบสัตวแพทย์
4. อึผิดปกติ หรือไม่อึเลย
- ปกติ: อึกลม ขนาดเท่ากัน
- ผิดปกติ:
- อึเม็ดเล็ก แห้ง หรือแข็ง
- อึเป็นสายเหมือนสร้อย (ขนอุดตัน)
- ไม่อึเลยนานเกิน 12 ชั่วโมง
ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
5. เดินลำบาก หรือขยับผิดปกติ
- ผิดปกติ:
- เดินลากขา เดินเอียง
- ขาหลังอ่อนแรง ยืนหรือเดินลำบาก
- ยืนหรือหมอบในท่าเกร็งตลอดเวลา
อาจเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง ระบบประสาท หรือขาอักเสบ
6. พฤติกรรมเปลี่ยนไป
- ปกติ: ขี้เล่น อ้อน และตอบสนองกับเจ้าของ
- ผิดปกติ:
- ก้าวร้าว ไม่ยอมให้จับ
- เงียบ หลบมุม ไม่สนใจสิ่งรอบตัว
พฤติกรรมเหล่านี้อาจเกิดจากอาการเจ็บปวดหรือความเครียดสะสม
ควรทำอย่างไรเมื่อกระต่ายมีอาการปวด?
- หมั่นสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด
- หลีกเลี่ยงการอุ้มหรือเคลื่อนย้ายแรงๆ
- พยายามให้กินน้ำและอาหารเสริม เช่น Critical Care หรือหญ้าบด
- หากไม่กินอาหาร หรือไม่ถ่ายอึ ควรพบสัตวแพทย์ทันที
สรุป: สัญญาณอาการปวดในกระต่าย
- สีหน้าเปลี่ยน – หูตก ตาหรี่ หน้าย่น
- หมอบนิ่ง คู้ตัวผิดปกติ
- ไม่กินอาหาร หรืออึน้อย
- เดินผิดปกติ ขาหลังอ่อน
- พฤติกรรมเปลี่ยน ก้าวร้าวหรือเก็บตัว
หากพบอาการเหล่านี้ อย่ารอช้า ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์ทันที
แชร์บทความนี้ เพื่อช่วยให้เจ้าของกระต่ายท่านอื่นสังเกตความผิดปกติได้เร็วขึ้น และพาน้องไปรับการรักษาได้ทันท่วงที