Skip to content

โรคซีสต์รังไข่ในหนูแกสบี้ (Ovarian Cysts in Guinea Pigs)

Share to Social Media:

เคสตัวอย่าง: ขนร่วงแบบสมมาตรในหนูแกสบี้ และภาวะซีสต์รังไข่

หนูแกสบี้ตัวหนึ่งเข้ารับการรักษาด้วยอาการขาหัก และได้รับการใส่เฝือกเรียบร้อยดี แต่ระหว่างการตรวจร่างกาย สัตวแพทย์สังเกตพบว่ามีขนร่วงบริเวณด้านท้ายของลำตัวทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นลักษณะของ “ขนร่วงแบบสมมาตรโดยไม่มีการอักเสบของผิวหนัง” (Non-pruritic Bilateral Symmetrical Alopecia)

การวินิจฉัย

ขนร่วงลักษณะนี้มักเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของฮอร์โมน จึงมีการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound) เพื่อประเมินรังไข่และต่อมหมวกไต พบว่ามีถุงน้ำที่รังไข่ (Ovarian Cysts) ทั้งสองข้าง


ประเภทของซีสต์รังไข่ในหนูแกสบี้

1. Serous Cysts (Cystic Rete Ovarii) – ซีสต์ไม่ผลิตฮอร์โมน

  • มักไม่แสดงอาการภายนอกจนกว่าซีสต์จะมีขนาดใหญ่
  • อาจกดเบียดอวัยวะในช่องท้อง ทำให้ท้องอืด เบื่ออาหาร
  • ขนาดซีสต์อาจใหญ่ถึง 0.5 – 7.0 ซม.

การรักษา

  • ผ่าตัดรังไข่และมดลูกออก (Ovariohysterectomy, OVH) – ได้ผลดีที่สุด
  • ดูดของเหลวออกด้วยอัลตราซาวด์ – ช่วยบรรเทาชั่วคราว ซีสต์อาจโตซ้ำ

2. Follicular Cysts – ซีสต์ที่ผลิตฮอร์โมน

อาการที่พบ:

  • ขนร่วงแบบสมมาตร
  • ช่องท้องขยาย
  • เต้านมหรือหัวนมขยายใหญ่

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบร่วม:

  • เนื้องอกมดลูก
  • เนื้องอกรังไข่
  • มดลูกอักเสบ
  • โลหิตจางจากภาวะกดไขกระดูก

การรักษา

  • ผ่าตัดรังไข่และมดลูกออก (OVH)
  • ฉีดฮอร์โมน:
    • GnRH agonist: 25 ไมโครกรัม/ตัว ห่างกัน 2 สัปดาห์
    • ไม่แนะนำ hCG เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดการสร้างแอนติบอดีต้าน

คำแนะนำในการป้องกัน

  • หนูแกสบี้เพศเมียที่อายุ 3 ปีขึ้นไป ควรตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องเป็นประจำ
  • ตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวังความผิดปกติของฮอร์โมน
  • หากพบขนร่วงแบบสมมาตร หรือช่องท้องขยายผิดปกติ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

สรุป:
โรคซีสต์รังไข่ในหนูแกสบี้พบได้บ่อยในเพศเมีย และอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โอกาสในการฟื้นตัวและหายขาดจะเพิ่มสูงขึ้น